Latest News


แนะเพิ่มพอร์ตทองคำ รองรับความเสี่ยงหุ้นเพิ่ม ห่วง Bad Trump


“การเมืองยุโรป” เริ่มกลับเข้ามามีอิทธิพลกำหนดบรรยากาศการลงทุน เพิ่มเติมจากเซ็นติเมนต์ของตลาด ก่อนหน้านี้ที่ตกอยู่ในโหมด "Bad Trump" หรือกังวลแรงกระเพื่อมจากนโยบายที่แข็งกร้าวของผู้นำสหรัฐฯ   คอลัมน์ “ Fund View” มีกลยุทธ์ทางเลือกมาฝากสำหรับใครที่ต้องการทบทวนพอร์ตลงทุนในช่วงนี้

ภายหลังการรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ของ "โดนัลด์ ทรัมป์” แม้ตลาดจะตอบรับเชิงบวก ดูจากดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่บวกขึ้นทำสถิติใหม่ จากความคาดหวังค่อนข้างสูงว่า นโยบายในด้านบวก หรือ "Good Trump" จะมาก่อน แต่สถานการณ์ปัจจุบัน กลับกลายเป็นว่านโยบายที่เป็น "Bad Trump" กลับมาแรง จนกลายเป็นความเสี่ยงฉุดความเชื่อมั่นอยู่ในขณะนี้

น่าสนใจว่า กระแส "Bad Trump" ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ผู้ลงทุนควรต้องปรับเกมเพื่อรับมือกับความเสี่ยงนี้อย่างไร?

"สานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล" นักวิเคราะห์กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป บอกกับ Money Channel ว่า กระแส "Bad Trump" เริ่มฉุดเซ็นติเมนต์ของตลาดมากขึ้น ทำให้ความเสี่ยงของการลงทุนใน "หุ้น" เพิ่มสูงขึ้น แม้ว่า "หุ้น" ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่อาจจะสร้างโอกาสเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนได้ดีที่สุดในเวลานี้เช่นกัน

แต่สำหรับกลยุทธ์การลงทุนสำหรับคนที่รับความเสี่ยงได้ไม่สูงนัก  เขาแนะนำว่าไม่ควรกระจุกตัวอยู่ในหุ้นเพียงอย่างเดียว หรืออยู่ในหุ้นของประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นหลัก

อย่างตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นอินเดีย ที่ได้เห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างโดดเด่นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์ค่ายฟิลลิป บอกว่า หากจะเจาะจงลงทุนในสองตลาดนี้ อาจจะเหมาะกับผู้ลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทน มากกว่าจะคาดหวังว่าจะช่วยกระจายความเสี่ยง และยังเหมาะกับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ค่อนไปทางสูงมากๆ 

เพราะแม้ว่าทั้งสองตลาดนี้ จะน่าสนใจมากขึ้นในแง่ของการเติบโต แต่ต้องไม่ลืมว่า ความผันผวนที่เกิดจากกระแส  "Bad Trump" อาจจะทำเงินลงทุนที่ใส่ลงไป แบกรับความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น หากรับความเสี่ยงได้ในระดับกลางๆ และต้องการกระจายความเสี่ยง การมองหาโอกาสในตลาด "เอเชีย-แปซิฟิก" ก็น่าจะตอบโจทย์ และลดความเสี่ยงให้ผู้ลงทุนได้ดีกว่า เพราะดูจากภาพรวมที่ยังเติบโตได้ดีเช่นกัน

นักวิเคราะห์ค่ายฟิลลิป ยังแนะนำผู้ลงทุนให้กลับมาเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน "ทองคำ" ราวสัดส่วน 10% ของพอร์ต ด้วยเหตุผลว่า "ทองกับหุ้น" มักมีความสัมพันธ์ในทิศทางที่ตรงข้ามกันเสมอ ดังนั้น ถ้าหากหุ้นมีความผันผวนสูง ทองคำก็ดูจะปลอดภัยกว่า

คำแนะนำดังกล่าว เป็นเพียงแนวทางเพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าราคาทองคำ จะบวกขึ้นมาร้อนแรงจนสามารถชดเชยความผันผวนของหุ้นได้ นั่นก็เพราะ “Upside” ของราคาทองคำในช่วงนี้ ยังถูกมองว่าค่อนข้างจำกัด

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนภายในประเทศ นักวิเคราะห์ฟิลลิป ยังให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้น “Mid- Small Cap” โดยเฉพาะกลุ่มยังมีการเติบโตสูง เพราะพื้นฐานยังสอดคล้องกับราคาที่บวกขึ้นมาแรงในปีที่ผ่านมา

ส่วนกลุ่มกองทุนอสังหาริมทรัพย์ รวมถึง REIT ในปีที่ผ่านมา ราคาบวกขึ้นมาแรงพอสมควร ดังนั้น ใครที่มีกองทุนในกลุ่มนี้อยู่ ยังแนะนำให้ถือต่อ ด้วยผลตอบแทนที่ยังคาดหวังได้ในระดับ 5-6% เพราะหากลดน้ำหนักลง แล้วไปลงทุนตราสารหนี้แทน ก็อาจจะคาดหวังผลตอบแทนได้น้อยกว่า

อย่างไรก็ดี หากผู้ลงทุนยังไม่มีอยู่ในพอร์ต เขาแนะนำว่านี่ยังไม่ใช่จังหวะของการเข้าลงทุน เพราะคาดหวังได้เฉพาะเงินปันผลเท่านั้น ในขณะที่ “Upside” ดูค่อนข้างจำกัดแล้ว

**********************************
ทีม Business & Finance , Money Channel

Advertisement

Rookie Enter

Welcome to The Rookie Sports shop. Rookie is an sports shop online and news letter for teenagers.

uptop

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน